สำหรับพนักงานที่มีหน้าที่ขับขี่รถยกหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถยก ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องเข้าอบรมหลักสูตรการใช้งานรถยกหรือหลักสูตรโฟล์คลิฟท์ตามประเภทของรถยกที่ใช้ในการทำงานจริง ซึ่งต้องมีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของรถยกที่ใช้งาน ต่อศูนย์ฝึกอบรมก่อนการเลือกเข้าอบรม
รถยก คืออะไร
รถยก (Forklift) คือ เครื่องจักรที่ใช้ในการยก ย้าย และขนถ่ายวัสดุในพื้นที่ต่างๆ เช่น โรงงาน คลังสินค้า หรือพื้นที่ก่อสร้าง โดยมักจะใช้ในการยกของหนักที่ไม่สามารถยกด้วยมือได้ ซึ่งรถยกมีส่วนประกอบหลักคือ แผ่นยก (Forks) ที่ช่วยยกของขึ้นไปในอากาศและสามารถย้ายไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ โดยทำงานด้วยระบบพลังงานหลากหลาย เช่น น้ำมัน, ไฟฟ้า, หรือ แก๊สขึ้นอยู่กับประเภทของรถยก
รถยกมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทจะเหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น การยกของในพื้นที่แคบหรือการใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบก็จะมีการเลือกใช้รถยกที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน และประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ได้มีการบังคับใช้ ประกาศจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักสูตรการอบรมลูกจ้าง 2568 ซึ่งมีการปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตรอบรมรถยกใหม่ และกำหนดข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าลูกจ้างที่ทำหน้าที่ขับรถยกทั้งชนิดไฟฟ้าและชนิดเครื่องยนต์ จะต้องเข้าอบรมตามประเภทของรถยกที่ใช้งานจริง ซึ่งแบ่งออกเป็น 11 ประเภท ดังนี้
11 ประเภทรถยก ต้องจัดอบรมตามกฎหมายใหม่
1. Warehouse Forklift (รถยกคลังสินค้า)
Warehouse Forklift เป็นรถยกที่ใช้สำหรับขนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้า โดยมักมีขนาดกะทัดรัด เพื่อให้สามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้ดี สามารถยกสินค้าขึ้นไปเก็บในชั้นวางสูงได้ โดยสามารถทำงานได้ทั้งในพื้นที่จำกัดและพื้นที่กว้างที่มีการจัดระเบียบเป็นชั้นๆ
ลักษณะเด่น:
- ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับพื้นที่แคบ
- สามารถยกสินค้าขึ้นเก็บในระดับสูง
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูงในคลังสินค้า
2. Side Loader (รถยกข้าง)
Side Loader เป็นรถยกที่มีการออกแบบให้สามารถยกและขนย้ายวัสดุในแนวข้าง ซึ่งช่วยให้สามารถขนย้ายวัสดุที่มีขนาดยาว เช่น ท่อเหล็ก แผ่นไม้ หรือเหล็กกล้า รถยกประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานในงานก่อสร้างหรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการขนย้ายวัสดุที่มีขนาดใหญ่และยาว
ลักษณะเด่น:
- สามารถขนย้ายวัสดุขนาดยาวได้โดยไม่ต้องหันหน้าไปข้างหน้า
- เหมาะสำหรับการขนย้ายวัสดุที่ยาวหรือไม่สามารถใช้งานรถยกประเภทอื่นได้
- ใช้งานได้ดีในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด
3. Counterbalance Forklift (รถยกถ่วงน้ำหนัก)
Counterbalance Forklift เป็นรถยกที่มีการออกแบบให้มีน้ำหนักที่ด้านหลังเพื่อถ่วงสมดุลกับการยกสินค้าด้านหน้า ทำให้สามารถยกของที่มีน้ำหนักมากได้อย่างมั่นคงและมีความเสถียร รถประเภทนี้มักใช้ในงานที่ต้องขนย้ายสินค้าในพื้นที่ที่ไม่จำกัดขนาด
ลักษณะเด่น:
- น้ำหนักถ่วงที่ด้านหลังเพิ่มความเสถียรในการยกของหนัก
- ใช้งานได้ดีในพื้นที่ที่ไม่จำกัดขนาด
- ใช้สำหรับขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือขนาดใหญ่
4. Reach Truck (รถยกสูงในคลังสินค้า)
Reach Truck เป็นรถยกที่สามารถยกสินค้าขึ้นไปในระดับสูงในคลังสินค้าที่มีพื้นที่จัดเก็บในระดับสูง รถประเภทนี้สามารถทำงานในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัดและใช้ได้ดีในพื้นที่ที่ต้องการการจัดเก็บสินค้าในชั้นวางสูง
ลักษณะเด่น:
- สามารถยกสินค้าขึ้นไปในระดับสูง
- เหมาะกับงานคลังสินค้าที่มีพื้นที่สูงและต้องการจัดเก็บในชั้นวาง
- ใช้งานได้ดีในพื้นที่ที่แคบและจำกัด
5. Industrial Forklift (รถยกอุตสาหกรรม)
Industrial Forklift เป็นรถยกที่ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักที่มากกว่ารถยกทั่วไป โดยมักใช้ในโรงงานหรืออุตสาหกรรมที่ต้องขนย้ายวัสดุขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก รถประเภทนี้มักมีความทนทานและใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
ลักษณะเด่น:
- รองรับน้ำหนักได้มาก
- ทนทานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมหนัก
- ใช้ได้ในงานที่ต้องการการยกของหนัก
6. Telehandler (รถยกแขนยืด)
Telehandler หรือรถยกแขนยืด เป็นรถยกที่มีการออกแบบให้มีแขนยืดที่ช่วยให้สามารถยกของไปยังจุดที่ไกลและสูงได้ รถประเภทนี้มักใช้ในงานก่อสร้างหรือในงานที่ต้องขนย้ายวัสดุที่มีขนาดใหญ่และไม่สามารถยกได้ด้วยรถยกปกติ
ลักษณะเด่น:
- แขนยืดที่ช่วยให้สามารถยกของได้ไกลและสูง
- เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการยกวัสดุที่มีขนาดใหญ่
- สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีพื้นผิวไม่เสถียร
7. Rough Terrain Forklift (รถยกออฟโรด)
Rough Terrain Forklift ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีพื้นผิวขรุขระ เช่น งานก่อสร้างหรือการขนย้ายวัสดุในพื้นที่กลางแจ้ง ที่พื้นผิวไม่เรียบ รถประเภทนี้มีล้อที่ใหญ่และมีระบบกันสะเทือนที่แข็งแรง ซึ่งช่วยให้สามารถขับเคลื่อนในพื้นที่ที่ไม่เสถียรได้
ลักษณะเด่น:
- เหมาะกับการใช้งานบนพื้นผิวขรุขระ
- มีระบบกันสะเทือนเพื่อการขับขี่ที่มั่นคงในสภาพพื้นที่ที่ไม่เสถียร
- เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความทนทาน
8. Walkie Stacker (รถยกไฟฟ้าแบบเดินตาม)
Walkie Stacker เป็นรถยกที่ไม่มีที่นั่งสำหรับผู้ขับขี่ โดยผู้ปฏิบัติงานจะต้องเดินตามรถยกขณะใช้งาน รถประเภทนี้เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้าที่มีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการจัดเก็บสินค้าขนาดเล็กหรือปริมาณไม่มาก
ลักษณะเด่น:
- ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
- เหมาะกับพื้นที่จำกัดหรือคลังสินค้าที่มีทางเดินแคบ
- ใช้งานง่ายและสะดวกในพื้นที่แคบ
9. Order Picker (รถยกคัดแยกสินค้า)
Order Picker เป็นรถยกที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถยกตัวเองขึ้นไปยังระดับชั้นของสินค้า เพื่อทำการเลือกสินค้าจากชั้นวางในคลังสินค้าต่างๆ รถประเภทนี้เหมาะกับงานคัดแยกสินค้าหรือการเลือกสินค้าจากคลัง
ลักษณะเด่น:
- สามารถยกพนักงานขึ้นไปยังระดับชั้นสินค้า
- ใช้ในการคัดแยกสินค้าหรือจัดการกับสินค้าในชั้นวางสูง
- เหมาะสำหรับการเลือกสินค้าจากคลัง
10. Reach Stacker (รถยกสำหรับตู้คอนเทนเนอร์)
Reach Stacker เป็นรถยกที่ใช้สำหรับยกตู้คอนเทนเนอร์ในท่าเรือหรือในพื้นที่ที่มีการจัดเก็บตู้สินค้า ซึ่งสามารถยกและขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ที่มีน้ำหนักมากได้อย่างสะดวก
ลักษณะเด่น:
- สามารถยกและขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ได้
- เหมาะสำหรับการทำงานในท่าเรือและพื้นที่จัดเก็บตู้สินค้า
- มีความสามารถในการยกของที่มีน้ำหนักมาก
11. Other Forklift Types (อื่นๆ)
นอกจาก 10 ประเภทที่กล่าวถึงแล้ว ยังมีรถยกประเภทอื่นๆ ที่อาจต้องจัดให้มีการฝึกอบรมตามลักษณะการใช้งานเฉพาะในบางองค์กรหรือสถานการณ์ โดยขึ้นอยู่กับความจำเป็นและข้อกำหนดทางกฎหมายในแต่ละสถานที่ทำงาน ซึ่งการฝึกอบรมเหล่านี้ยังคงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการปฏิบัติตามมาตรฐานการใช้งานอย่างเคร่งครัด
แนะนำศูนย์ฝึกอบรม เซฟตี้.com สำหรับการฝึกอบรมโฟล์คลิฟท์
หากคุณกำลังมองหาศูนย์ฝึกอบรมที่เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมการใช้งานรถยกอย่างปลอดภัย เซฟตี้.com คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ! เรามีหลักสูตรการฝึกอบรมรถยกที่ครบถ้วนและครอบคลุมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Counterbalance Forklift, Reach Truck, Telehandler, หรือประเภทอื่นๆ ที่กล่าวถึงในบทความนี้
เซฟตี้.com ให้บริการฝึกอบรมแบบ อินเฮ้าส์ (In-House) ซึ่งทีมผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจะเดินทางไปฝึกอบรมถึงสถานที่ทำงานของคุณ ทำให้คุณสามารถฝึกอบรมพนักงานได้ในสภาพแวดล้อมที่ใช้เครื่องมือจริง สะดวกและเหมาะสมกับลักษณะการทำงานของธุรกิจคุณ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ตามกฎหมายกำหนด
- เพิ่มเติม : เนื้อหาอบรมรถยก ตามกฎหมายใหม่ 2568
ทำไมต้องเลือกฝึกอบรมกับเซฟตี้.com?
- ฝึกอบรมที่ยืดหยุ่น: เรามีบริการอบรมแบบอินเฮ้าส์ ทำให้คุณสามารถเลือกวันเวลาและสถานที่ได้ตามความสะดวกขององค์กร
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์: ทีมผู้ฝึกสอนของเรามีความรู้และประสบการณ์ในการฝึกอบรมการใช้งานรถยกอย่างปลอดภัย และเป็นผู้ที่มีความรู้ในมาตรฐานการทำงานระดับสากล รวมถึงคุณสมบัติวิทยากรตรงตามข้อกำหนดของกฎหมาย
- เน้นปฏิบัติจริง: ฝึกปฏิบัติจริงและการทดสอบในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้พนักงานมีความมั่นใจในการใช้งาน
- เพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน: พนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากเราจะมีความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทักษะการใช้งานรถยกอย่างถูกต้องและปลอดภัย แต่การฝึกอบรมยังช่วยลดอุบัติเหตุและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานรถยกโดยไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจักรได้อย่างครบถ้วน
ติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมและจองการฝึกอบรม >> อบรมโฟล์คลิฟท์ อินเฮ้าส์
ติดต่อสอบถาม : (064) 958 7451 คุณแนน
สรุป
สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานขับขี่รถยกชนิดไฟฟ้า หรือชนิดเครื่องยนตร์ ไม่ว่าจะเป้นผู้ที่เคยอบรม และผู้ที่ยังไม่เคยอบรม ต้องมีการอบรมแยกต่างประเภทใช้งานลงไปอีก ซึ่งเเบ่งเป็น 11 ประเภทตาม ประกาศจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักสูตรการอบรมลูกจ้าง 2568 กำหนด
ประเภทของรถยกมีหลายประเภท เช่น รถยกคลังสินค้า (Warehouse Forklift), รถยกข้าง (Side Loader), รถยกออฟโรด (Rough Terrain Forklift) และอื่นๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป การฝึกอบรมจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้รถยกที่เหมาะสมกับงานที่ทำ และสามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งต่อตัวผู้ขับขี่เองและผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง